จากกรณีข่าวของ "พลายศักดิ์สุรินทร์" ได้สร้างแรงกระเพื่อมในสังคมให้คนหันกลับมาสนใจชีวิตความเป็นอยู่ของช้างไทยในต่างประเทศ รวมทั้งในประเทศมากขึ้น อย่างไรก็ตามเรื่องราวการพา "พลายศักดิ์สุรินทร์" เดินทางกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย จะคลายความกังวลให้หลายคนได้บ้าง แต่ก็ยังมีช้างอีก 2 เชือก "พลายประตูผา-พลายศรีณรงค์" ที่หลายคนแสดงความกังวลว่าทางศรีลังกาจะสามารถดูแลช้างทั้งสองต่อไปได้ดีหรือไม่ และได้มีการเรียกร้องหาพาช้างทั้ง 2 เชือกกลับประเทศไทย

    ล่าสุด "เฟซบุ๊ก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ" ได้มีการเปิดเผยว่า ทางการของศรีลังกา จะฟ้องร้องค่าเสียหายหากพาช้างทั้ง 2 เชือกกลับประเทศไทย เพราะถือว่าทำผิดจรรยาบรรณ

    นายเนรัญชรา ไวเยรัตเน นักการเมืองผู้นำฝ่ายค้าน อดีตผู้นำผู้ปกครองสำนักงานของหัวหน้าฝ่ายอุปัฏฐาก Sri Dalada Maligawa วัดพระเขี้ยวแก้ว หัวหน้าฝ่ายฆราวาส ซึ่งมีอำนาจจัดการส่งเสริม เกี่ยวกับวัดในเมืองแคนดี้ ได้ให้ข้อมูลผ่านสื่อศรีลังกาว่า "ช้างไทยราชา ได้รับมอบเป็นของขวัญแก่ วัดศรีดาลดา มาลิกาวา (วัดพระเขี้ยวแก้ว) จากพระมหากษัตริย์ไทยเมื่อ 37 ปีที่แล้ว มีสุขภาพแข็งแรงดี" 

    ขณะที่มีองค์กร NGO องค์กรเกี่ยวกับสัตว์ บางรายในศรีลังกากำลังส่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไปยังรัฐบาลไทยเกี่ยวกับช้าง พร้อมยืนยันว่า หากมีการพยายามนำช้างที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ไทย กลับประเทศไทยนั้น จะมีการฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยสำหรับค่าใช้จ่ายในการบำรุง ดูแล รักษาช้างจนถึงปัจจุบัน

    ตั้งแต่รับช้างมาเมื่อ 37 ปีก่อน ศรีลังกาใช้เงินจำนวนมหาศาลในการดูแล อีกทั้งที่ผ่านมาช้างก็ได้รับการดูแลอย่างดีจากรุ่นพี่ที่จบทางด้านสัตวแพทย์ศาสตร์ นอกจากนี้แล้ว "การขอของขวัญที่มอบให้คืนนั้น ผิดจรรยาบรรณ"

    สำหรับประเด็นการนำช้างมาเดินขบวนแห่พระบรมสารีริกธาตุศักดิ์สิทธิ์ แห่พระเขี้ยวแก้ว เปรียบเสมือนการถวายของแก่พระพุทธเจ้า มีคุณค่าทางวัฒนธรรมที่อาจละเลยไม่ได้

    อ้างอิงจากโพสต์ของ "น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา" หนึ่งในผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ พลายศักดิ์สุรินทร์ กลับประเทศไทย ได้ออกมาเปิดเผยถึงประเด็นการนำช้างอีก 2 เชือกกลับไทยไว้ว่า "การจะพาช้างกลับแต่ละเชือกไม่ง่าย กรรมสิทธิ์เป็นของวัดที่เขาอยู่ ถ้าเจ้าอาวาสไม่ให้ เราทำไรไม่ได้เลย"

    สำหรับ "พลายศรีณรงค์" น.ส.กัญจนา เผยว่า ตนไม่ค่อยเป็นห่วงเท่าไหร่นัก เพราะเห็นแล้วว่าชีวิตความเป็นอยู่และคนเลี้ยงเขาเป็นอย่างไร แต่ยอมรับว่าเป็นห่วง "พลายประตูผา" เพราะอายุเยอะที่สุด ราว 48 ปี ซึ่งครั้งก่อนตนไม่ได้เข้าพบ เพราะทางวัดแจ้งว่าประตูพาตกมัน 

    อย่างไรก็ตาม น.ส.กัญจนา ยืนยันว่า ได้วางแผนไว้เบื้องต้นในส่วนที่ตนเองพอจะทำได้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ถึงขั้นเอาเขากลับ เนื่องจากเหตุผลหลาย ทั้งเรื่องกรรมสิทธิ์ นโยบายรัฐ รวมถึงแรงกระเพื่อมในศรีลังกา แต่ตนจะเดินทางไปศรีลังกาอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เพื่อหาทางให้ประตูผาได้รับการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องและมีชีวิตความเป็นอยู่ได้รับการดูแลที่ดี

ที่มา : World Forum ข่าวสารต่างประเทศ, เฟซบุ๊ก NuNa Silpa-archa